ในปัจจุบัน มีหน่วยองค์กรมากมายที่ตั้งตัวเองขึ้นมารับรองพระเครื่องฯ ชี้ชะตาพระแท้เท็จ..
ให้กับคนอื่น แน่นอน…แต่ละองค์กร..ย่อมมีบุคคลากรในการตรวจสอบพระเครื่องฯ
ไปตามสายของตน
ในสมัยก่อนที่ผมเริ่มสะสมพระใหม่ๆ นั้น..ผมก็จะรู้จักเพียง..หลวงวิจารณ์เจียระไน เป็น
ผู้แกะพิมพ์สมเด็จฯถวายให้สมเด็จพุฒาจารย์โตฯ……..เพียงคนเดียว (จริงๆ)
ต่อมาก็มีตัวละครที่เพิ่มขึ้นคือ…ยายขำ….ว่าเคยเป็นผู้ช่วย…สมเด็จพุฒาจารย์โตฯ ท่านกด…
ช่วยท่านพิมพ์ในช่วงระหว่างที่รอสำรับกับข้าวกลับวัง (เรามองดูว่า..ตัวละคร…ล้วนอยู่ในรั้ว
ในวัง) เพื่อให้ดูว่า…ไฮโซ…มีเกรด…ก็แค่นั้น
แม้แต่ หลวงวิจารณ์เจียรไน เมื่อผมได้ทำการตรวจสอบ ผมก็ไม่พบตัวตน..ที่มีอยู่ใน
โลกแห่งความเป็นจริง..ดังนั้นการแกะแม่พิมพ์ถวายพระสมเด็จโตฯ กำลังจะกลายเป็นเรื่อง
น่าขันในวงเหล้า…รวมถึงจะกลายเป็น….นิทานเด็กเลี้ยงแกะในอนาคตอันใกล้นั่นเอง
เหล่าเซียน..ผู้อ้างรู้ตรูชำนาญการ…สร้างตัวละคร “ยายขำ” ขึ้นมาเพื่ออะไร?
อ้างขึ้นมาเพื่อ?….ให้ตัวเองกลายเป็นผู้รู้ ดูเก่ง เบ่งกร่าง อ้างอวดสวดพระฯ ได้นั่นเอง
อ้างเรื่อง “ยายขำ” ขึ้นมาเพื่อที่…จะตีพระคนอื่นปลอม….โดยอ้างว่าเป็นพิมพ์ของยายขำ
ทำขึ้นในตอนหลังหลังจากที่ท่านมรณะภาพไปแล้ว แล้ว
ไม่แท้ ไม่ทัน ไม่มีราคา หรือ…จะอ้างว่า เป็นพิมพ์ของชาวบ้าน….ไม่นิยม
(ใครนิยม?…ใครไม่นิยม?….นิยมอะไร?)
คำอ้างนี้ก็เพื่อจะตีให้พระคนอื่น…ปลอม…เท่านั้น
ผมเคยถามผู้รู้เหล่านี้ว่า…
ในกรณีที่พระสมเด็จ…ที่สมเด็จพุฒาจารย์ท่านได้สร้างกับมือ..ทั้งส่วนผสมและผลิต
ด้วยตัวท่านเอง…ทำเฉกเช่นเดียวกับพิมพ์นิยมที่ท่านยกอ้าง ว่าเป็นพิมพ์นิยม มีพุทธคุณ
อิทธิฤทธิ์มหาศาล…….พระนอกพิมพ์เหล่านั้นจะแท้ไหม?….จะมีพุทธคุณเฉกเช่นเดียวกันไหม?
หรือสมควรอนุรักษ์ได้ไหม?
คำตอบก็คือ…ไม่ตอบ..ไม่สนใจ..ไม่มีราคา…ไม่ให้ราคา….ไม่น่าอนุรักษ์…ประมาณนี้
(แล้วก็ออกมาบ่นว่า..พระหายาก…) อวดสรรพคุณ อิทธิฤทธิ์ต่างๆ นานา หรือเพียงแค่…
ปั่นราคา..กันเท่านั้น….หาได้ศรัทธาแต่อย่างใดไม?….
ในกรณีที่พระหายาก…อาจจะเป็นเพราะ…ความไม่มีมาตรฐานที่กำหนดกัน..ให้เป็นมาตรฐาน
กำหนดให้พระเป็น คือต้องเห็น ต้องมี ต้องได้ นั่นเอง
เหล่านี้ ล้วนเป็นเหตุหนึ่งครับ บนความไม่รู้ว่า…อะไรเป็นอะไร?…แล้วจะกำหนดสิ่งนั้น ต้องไป
ตามที่ตัวเองอยากจะให้เป็น….นั่นคือปัญหา…ปัญหาอยู่ที่ความรู้ของผู้ตัดสินพระเครื่อง
ใช้มาตรฐาน กำหนดมาตรฐาน..ขึ้นมาใช้ บนความเชื่อของตน
โอเค..เมื่อพระหายาก…
ทำให้มีคนกลุ่มนึง…สร้างพระปลอมกันขึ้นมา…แล้วก็โปรโมทกันเป็นล่ำเป็นสัน…ว่า
…เป็นพระที่ท่านสร้างขึ้นโดย……มีเรื่องราวเล่ากล่าว…เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี่เอง….
มีตัวละครเพิ่มขึ้น เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ เกี่ยวพัน สัมพันธ์
กับสมเด็จพุฒาจารย์โตฯ….เพื่ออะไร?
เพ่ือให้….(คนไม่รู้)…ได้สะสมเช่าหา ไปตามสิ่งที่ตัวเองวางหมากเอาไว้….
มีขุนโน่น…หลวงนี่…กำหนดตัวละครเหล่าเจ้าขุนมูลนาย….กันขึ้นมาเพื่อแยกแยะ…เพื่อ
ขยายความให้มากเรื่อง..ให้ดุว่า…ความรู้ของตัวเองดี…ถูกต้องเหมาะสม ตรูเก่ง
ขอโทษครับ..ที่ผมจะบอกว่า…พระที่ท่านอ้างว่า..สร้างในสมัยเก่าก่อนนั้น..อยู่ในสภาพ
ใหม่แกะกล่อง…พรางคราบยังงัยก็ไม่ใช่ ทำยังงัยก็ไม่เหมือนของแท้ดั้งเดิม..อีกทั้ง.เป็น
พระปลอมที่ดูง่ายมากๆ ด้วยซ้ำไป
จากนั้น…ท่านผู้แอบอ้างเหล่านี้ก็เอามาประกวด ประชันขันแข่ง (พระเก๊ในเครือ)….
เป็นล่ำเป็นสัน…มารับรองให้เป็นพระเเท้..(เฉพาะกลุ่ม) กันไปใหญ่โต….ออกหนังสือรับรองให้ว่า
…แท้มีมาตรฐานสร้างเรื่องราว เป็นขั้นเป็นตอน การเจอะเจอ การแสดงหลักฐาน (เท็จ) ให้ผู้คน
หลงผิดคิดเชื่อไปตามหลักฐาน(เท็จ) ท้ังหลายเหล่านั้น
พระแท้ๆ ดูยังงัย?…..วันนี้เรายึดหลักมาตรฐานอะไร?….เอาอะไรพิจารณาให้แท้เท็จครับ….
สิ่งที่กำหนดให้เป็นมาตรฐานเหล่านั้น…มันไม่มีมาตรฐานอะไรรองรับ
เลยครับ…นอกจากความเชื่อ….(อวิชชา) ว่าใช่..หรือไม่ใช่….ของตนของกลุ่มตน….เเค่นั้น
วันหน้าคอยดูครับ…จะมีขุนโน่น หลวงนี่..หม่อมนั้น…ประชันขันแข่งเปิดตัวกันออกมา
เป็นระยะๆ อย่างแน่นอน…ตราบใด..ที่..เรายัง…ยอมรับ..ความไม่มีมาตรฐาน…ไม่ค้นหา
มาตรฐานเพื่อนำพิสูจน์….ความแท้เท็จ..ได้ตราบนั้น…เรื่องเล่า…และการกำหนดแห่ง…อวิชชา
…จะขยายตัวออกไป จนหยุดยั้งไม่ได้
ทุกวันนี้…..ผู้มีอำนาจแต่ละฝ่ายแต่ละกลุ่ม….ต่างก็รู้กันเป็นอย่างดีว่า
“………ต่างฝ่ายต่างก็…ตรวจสอบความรู้…ความถูกต้อง..ของกลุ่มตรงข้าม…ไม่ได้….”
ตรวจสอบซึ่งกันและกันก็ไม่ได้….เพราะไม่รู้..ว่ามาตรฐานคืออะไร?…มีหน่วยวัดค่าได้คืออะไร?….
เมื่อไม่รู้ว่ามาตรฐานคืออะไร?…หน่วยวัดค่ามาตรฐานพระเครื่องคืออะไร?…
จึง….ไม่มีเครื่องมือตรวจสอบ…มาตรฐานสมมุติเหล่านั้นได้นั่นเอง
เพราะว่า..ถ้าหากเนื้อมีมาตรฐาน…ก็ใช้เนื้อหามวลสาร ตรวจสอบได้
เพราะว่า..ถ้าหากพิมพ์มีมาตรฐาน…ก็ใช้พิมพ์ทรงองค์พระฯตรวจสอบได้
แต่ทุกวันนี้…สิ่งที่แต่ละฝ่าย…กำหนดขึ้นมา..มันไม่มีมาตรฐาน…..
ทะเลาะกันเปล่าๆ…จะเป็นความเห็นขัดแย้งกันไม่ได้ข้อยุติ เพราะต่างฝ่ายก็เน้นนิยาย
เรื่องเล่า เขลาปัญญา อวดอ้างความเชื่อ ความน่านับถือเเห่งตนเป็นที่ตั้ง….ผู้เช่าต้องเชื่อว่า…
สิ่งที่พวกเขาเชื่อ….ทุกเรื่องที่เขาเล่าให้ฟัง..เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง..เราจึงต้องเห็นพร้องด้วยเท่านั้น
ถึงจะเกิดศรัทธาเช่าหากันได้
มาตรฐาน…มาตรฐานสากล…จึงเป็นเรื่องแหกตา หลอกให้คนหลงผิดคิดเชื่อไปตามคำพูด
เหล่านั้นมาตรฐานที่เกิดจากความเชื่อของเหล่าผู้คนที่ใช้ความเชื่อ มีแต่ความเชื่อ…(อวิชชา)
..ลุ่มหลงงมงายกับความเชื่อโดยโยงเอาศรัทธา..ความเคารพ…เป็นข้ออ้าง พรางเหยื่อ..ให้ติดกับ
…ศรัทธา….ที่ตัวเองสร้างสรรปั้นแต่งนั้น
หากเราไม่ยั้งคิด พิจารณา หลงเชื่อตามคารมคมคาย…เราอาจจะกลายเป็นเหยื่อ.
..โดนขย้ำทุกเวลา เป็นอาหารจานเด็ด…บนความไม่รุ้เท่าทัน…”เพราะความงมงายในศรัทธานั้นนั่นเอง)
เพียงแต่ว่า…เหยื่อก้อนนี้..จะหลุดเข้ากรง..ของฝ่ายไหน?…ใครจะเป็นคนขย้ำ…..เท่านั้นเองครับ
(วันที่ผมเขียนนี้…ยังเกิดเหล่าหลวงๆ เพิ่มขึ้นมาอีกหลายคน) หากใครจะเอาไว้ใช้อ้างอิงในภายหลังได้ครับ
…..ในกรณีถ้าผมจำไม่ผิด….หากผิดพลาดต้องขออภัยเพราะหลวงๆ ที่เกิดจากหลังบทความนี้….
ผมก็เพิ่งเคยได้ยินเช่นกัน)
ขอปัญญาจงสถิตย์กับเพื่อนๆ ครับ….จริงใจครับ