ความจะแท้หรือจะเท็จ ในมุมมองของผู้รู้ ผู้ชำนาญการพร้อมบทวิเคราะห์ ครับอยากให้เพื่อนๆ อ่านที่ตัวบทความจะมีคอมเม้นท์ให้ได้เรียนรู้ศึกษาได้ตามมาอย่าพลาดที่จะแสดงความรู้ หรือค้นหาความรู้จากคอมเม้นท์เหล่านั้นครับ
(บทความจาก) คุณ…..นิตยสาร…
1. รอยย่นของผิว….คือผิวของพระสมเด็จฯจะมีรอยย่นในเนื้อเป็นริ้วๆ คล้ายสีน้ำมัน
ผิวข้างนอกแห้งแต่ภายในยังมีความชื้น สีรัดตัวเกิดเป็นรอยย่น เมื่อใช้แว่นส่องดูจะเห็นได้ชัด
2. รูพรุน จะเห็นเป็นจุดลึกคล้ายรูขุมขน
3. ผิวพระจันทร์ในองค์พระสมเด็จ ผิวจะเหมือนโลกพระจันทร์ ผิวพระดังกล่าว พระสมเด็จใหม่ๆ
จะไม่ปรากฏ
4. รอยหนอนด้น หรือ ปูไต่จะเห็นได้ว่า เป็นรอยขีดเล็กๆ ตรงบ้าง โค้งบ้าง
5. มวลสารบนผิวจะแลเห็นเกสรอ่อน ๆ เป็นจุดๆ ลางๆ
วิเคราะห์..ผู้รู้ท่านนี้
1. รอยย่นที่เกิดบนผิวพระสมเด็จฯคล้ายสีน้ำมันที่ข้างนอกแห้ง..แต่ภายในยังมีความชื้น..
ความแห้งก็เลยทำให้ย่น) ท่านสรุปให้รอยย่นที่เห็นเกิดจากความเหี่ยวตามอายุนั่นเอง..
ง่ายๆ ครับ….พอเข้าใจได้ครับ…
2.ส่วนรูพรุนปลายเข็มเป็นลักษณะคล้ายรูขุมขน…เราก็เห็นตามนั้นเหมือนกัน…แต่ท่านไม่อธิบาย..
สาเหตุการเกิดรูพรุนปลายเข็มนี้..ว่าเกิดขึ้นมาตอนไหน? อย่างไร?
3. ผิวพระจันทร์…เรื่องนี้คงอธิบายยากครับ…เพราะผิวของดวงจันทร์..ไม่เหมือนกัน..พื้นที่ของ
ดวงจันทร์มันกว้างครับ..เข้าใจไม่ได้ ไม่รู้จะดูตรงไหนมุมไหน…ของดวงจันทร์…หน่ะครับ
4. รอยหนอนด้น..หรือ..รอยปูไต่ เป็นรอยขีดเล็กๆ ตรงบ้าง โค้งบ้าง
(คนอ่านคงยากที่จินตนาการตามได้ครับ ที่สำคัญครับ..รอยหนอนด้น..อยู่ตรงไหน..รอยปูไต่..
ไต่ตรงไหน…ไม่มีการชี้จุดที่แน่ชัด…หรือ…มีรูปร่างแน่ชัดอย่างไร? กันแน่….รอยทั้งสองมีความ
สำคัญอย่างไร?..ก็ไม่บอก..มีลักษณะที่ถูกต้องเป็นอย่างไร? คนอ่าน..ก็คง..ไม่รู้ครับ…
แต่จากการเรียนรู้ของผม..รอยสองรอยนี้…หนอนด้น..ไม่เหมือนกับ..ปูไต่..อย่างเด็ดขาด
ครับมีคำอธิบายในท้ายบันทึกให้ทุกคนเข้าใจ..ด้วยอย่างแน่นอนครับ
5. มวลสารบนผิวแลเห็นเป็นเกสรอ่อนๆ เป็นจุดๆ ลางๆ (เกสร..ดอกไม้…หรือ???คนอื่นคง
ไม่เข้าใจครับ คำว่า..อ่อนๆ ก็มีความหมายกว้างมากครับ..เช่น..ไม่รู้ว่า..แค่ไหน?ที่..อ่อน…
อ่อนไปนิด…อ่อนไปหน่อย…อ่อน..กำลังดี สิ่งนี้…ใช้ความรู้สึกส่วนตัว..ได้สถานเดียวครับ..
ผู้พูดเลยต้อง..เข้าใจคนเดียว..จะแสดงให้คนอื่นดู..เห็น..หรืออธิบายให้เข้าใจไม่ได้)
ผู้อ่านจึงไม่ได้ประโยชน์อะไร? จากคำพูดทั้งมวลครับสรุปได้แบบนี้ครับ สิ่งต่างๆ ที่ท่านได้อธิบายมา เป็นเรื่องที่รับรู้ได้…แต่เรียนรู้ไม่ได้ ไม่รู้ว่า..สิ่งที่ท่านเห็นที่ท่านอธิบายเหล่านั้น…ตรงไหน?..ที่เราจัดให้เป็นมาตรฐานได้ นั่นคือเรื่องสำคัญที่สุดครับ